Business

‘ไช่เหนี่ยว’ ขยายเน็ตเวิร์คโลจิสติกส์ เชื่อมไทย-จีน..รับตลาดอีคอมเมิร์ซบูม

3

May

2022

8

March

2022

ไช่เหนี่ยว (Cainiao) เปิดบริการใหม่ Economy Sea Freight เชื่อม‘หนิงโป-กรุงเทพฯ’ พร้อมจับมือ Flash Express สร้างคลังสินค้าอัตโนมัติใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

        เมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ไช่เหนี่ยว (Cainiao) บริษัทโลจิสติกส์ภายใต้ อาลีบาบา กรุ๊ป ประเดิมเปิดบริการขนส่งสินค้าทางทะเลเส้นทางประหยัด (Economy Sea Freight) จากนครหนิงโปของจีน มายังกรุงเทพฯของไทย จำนวน 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ โดยบริการดังกล่าวจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าชาวไทยที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Tmall  ในเครือ Alibaba ได้รับการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วภายใน 15 วัน

        สำหรับบริการ Economy Sea Freight เส้นทางหนิงโป-กรุงเทพฯ เป็นบริการใหม่ที่ไช่เหนี่ยวเปิดตัวเพิ่มเติมจากบริการขนส่งทางรถบรรทุกจากจีนมายังประเทศไทยที่มีอยู่เดิม เพื่อสร้างทางเลือกใหม่ในการจัดส่งสินค้าในราคาที่ย่อมเยามากขึ้นแก่ลูกค้า โดยช่วยประหยัดต้นทุนค่าจัดส่งลดลงได้ถึงเกือบ 50% จากเดิม 2.6 ดอลลาร์สหรัฐ/กก. เหลือเพียง 1.4 ดอลลาร์สหรัฐ/กก.

        การเปิดตัวเส้นทางขนส่งราคาประหยัดนี้ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่มองหาตัวเลือกการขนส่งราคาย่อมเยา และมีความถี่ในการสั่งซื้อสินค้าที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น การเพิ่มตัวเลือกการขนส่งที่ถูกลง จึงช่วยให้ราคาค่าจัดส่งสอดคล้องกับราคาสินค้า ช่วยลดอุปสรรคในการซื้อสินค้าให้กับผู้บริโภค

        สำหรับพัสดุที่เตรียมจัดส่งมายังปลายทางประเทศไทยจะถูกนำไปคัดแยกไว้ที่คลังสินค้าของไช่เหนี่ยวในเมืองอี้อู ก่อนจะถูกส่งต่อไปยังท่าเรือหนิงโป เพื่อทำการขนส่งทางทะเลต่อมาถึงยังท่าเรือกรุงเทพฯ จากนั้นพาร์ทเนอร์ด้านโลจิสติกส์ของไช่เหนี่ยวจะรับหน้าที่กระจายและจัดส่งพัสดุไปถึงมือลูกค้าปลายทางต่อไป

        ทั้งนี้ รายงานล่าสุดของ J.P. Morgan เกี่ยวกับแนวโน้มการชำระเงินในประเทศไทยประจำปี 2563 ระบุว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซ B2C ของไทยมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ 27,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแนวโน้มจะเติบโตต่อเนื่องที่อัตราการเติบโตต่อปี 7.7% จนถึงปี 2566 โดยการค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน (Cross-Border E-Commerce) คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของตลาดอีคอมเมิร์ซทั้งหมดในไทย โดยมีผู้สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ถึงเกือบครึ่งหนึ่งที่เคยสั่งซื้อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ

จับมือ Flash Express สร้างคลังสินค้าอัตโนมัติใหญ่สุดในอาเซียน  

        นอกเหนือจากการเปิดบริการขนส่งทางทะเลเชื่อมหนิงโป-กรุงเทพฯแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ ไช่เหนี่ยวยังได้จับมือร่วมกับแฟลช เอ็กซ์เพรส (Flash Express) บริษัทจัดส่งพัสดุชั้นนำของไทย สร้างระบบคลังสินค้าอัตโนมัติขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อขยายขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับประสิทธิภาพคลังสินค้าและโลจิสติกส์ของแฟลช เอ็กซ์เพรส ซึ่งปัจจุบัน มีสาขากระจายอยู่ทั่วไทยมากกว่า 2,000 แห่ง และแต่ละวันจัดส่งพัสดูมากกว่า 2 ล้านรายการ

        ตี๋ เหว่ยเจี๋ย ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของแฟลชฯ เปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า แต่ละวันจีนต้องจัดการพัสดุหลายร้อยล้านรายการ ทำให้มีประสบการณ์ รูปแบบการจัดการ และเทคโนโลยี ที่สามารถส่งออกมาช่วยเหลือบริษัทโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแฟลชฯ หวังดึงจุดเด่นเหล่านั้นมาสร้างคลังสินค้าและระบบจัดส่งที่รวดเร็ว

        ทั้งนี้ ไช่เหนี่ยวได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบอัตโนมัติที่ยืดหยุ่นในการออกแบบและวางผังคลังสินค้า ช่วยให้คลังสินค้าของแฟลชฯ สามารถปรับเปลี่ยนการดำเนินงานได้ตามปริมาณคำสั่งซื้อที่แท้จริง ตอบโจทย์การพัฒนาและขยายธุรกิจในอนาคต จากเดิมที่คลังสินค้ารองรับคำสั่งซื้อได้ 6,000 รายการต่อวัน เพิ่มเป็น 20,000 รายการต่อวัน  

        หากเป็นเมื่อก่อน แฟลช เอ็กซ์เพรส ต้องจ้างพนักงานชั่วคราวหลายร้อยคน เพื่อช่วยจัดการคำสั่งซื้อสินค้าปริมาณมหาศาลในช่วงที่มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาครั้งใหญ่ ทว่าช่วงมหกรรมชอปปิง 11.11 ในปีก่อน แฟลชฯ ไม่ต้องจ้างพนักงานเพิ่มเป็นครั้งแรก เพียงแค่เพิ่มเครื่องจักรจำนวนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพหลายเท่าตัว

Tags: