Focus

‘เศรษฐกิจจีน’ชะลอตัวต่ำสุดในรอบ 1 ปี แค่ฝนฟ้าคะนอง...หรือมรสุมใหญ่กำลังมา?

12

January

2022

25

October

2021

        สัญญาณการเติบโตที่ชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนกำลังเป็นตัวแปรที่สร้างความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงไทยที่มีความเชื่อมโยงใกล้ชิดกับจีนในฐานะคู่ค้าสำคัญอันดับหนึ่ง ภายหลังจากเมื่อเร็วๆนี้ จีนได้ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ซึ่งมีอัตราเติบโตอยู่ที่ 4.9% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวราว 5.2% และนับเป็นอัตราการเติบโตชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัดจาก GDP ไตรมาส 2 ที่มีอัตราเติบโตอยู่ที่ 7.9% และไตรมาส 1 ที่มีอัตราเติบโต 18.3% นอกจากนี้ ตัวเลข GDP ในไตรมาส 3 ยังนับเป็นอัตราการเติบโตที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2563 เป็นต้นมา

เกิดอะไรขึ้นกับเศรษฐกิจจีน?

        แม้เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกจะสามารถฟื้นตัวได้ก่อนใครจากโควิด-19 แต่การเติบโตเริ่มแผ่วลงเมื่อต้องเผชิญกับศึกหลายด้านที่รุมเร้า ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมในภาคการผลิตที่ถูกกดดันจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ปัญหาพลังงานขาดแคลน อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจีน การขนส่งสินค้าที่ชะงักงันจากการปิดท่าเรือเพื่อสกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 รวมถึงการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์จากมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดจากรัฐบาล

        ฟู่ หลิงฮุย โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ระบุว่า จากผลกระทบของโควิด-19 ปัญหาอุทกภัย และฐานตัวเลขเศรษฐกิจที่สูงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563  ทำให้อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจช่วง 3 ไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวต่ำกว่าอัตราขยายตัวของช่วงครึ่งปีแรก แต่ยังคงขยายตัวต่อเนื่องเมื่อเทียบแบบรายไตรมาส ตัวเลข GDP ช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้เติบโต 9.8% จากปีก่อน สูงกว่าเป้าซึ่งตั้งไว้ที่ 6% ขณะที่ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนยังอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล

        ด้านหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้ตอบคำถามประเด็นการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในงานสัมมนาออนไลน์กับสื่อมวลชนไทยเมื่อวันที่ 20 ต.ค. โดยกล่าวว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีที่ผ่านมา มีอัตราต่ำแล้วค่อยปรับสูงขึ้น และในปีนี้จากอัตราสูงลดต่ำลงเป็นสิ่งที่ปกติ โดยเป้าหมายที่รัฐบาลจีนคาดหวังสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้คือ 6% โดยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนสำหรับ 3 ไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 9.8% ทำให้คนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตที่แท้จริงทั้งปีจะเกิน8% ดังนั้นการกล่าวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนหยุดชะงักและอาจเกิดวิกฤตเศรษฐกิจนี้จึงอาจจะไร้เหตุผลเกินไป

        ขณะที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศณ นครเซี่ยงไฮ้ กระทรวงพาณิชย์ ได้แสดงความคิดเห็นต่อการเติบโตเศรษฐกิจจีนว่า จากรายงานตัวเลขGDP ของจีนปีนี้ที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 ที่มีอัตราการขยายตัวเพียง 4.9% ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ต่ำสุดในรอบ1 ปี ท่ามกลางความเห็นของนักวิเคราะห์ที่ชี้ว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่GDP ของจีนจะชะลอตัวติดต่อกันหลายเดือน

เป้าหมายที่รัฐบาลจีนคาดหวังสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้คือ 6 %

       กรณีดังกล่าวจึงอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของจีนและคาดว่า GDPของจีนในปีนี้จะเติบโต 8.1% น้อยกว่าระดับที่คาดไว้ก่อนหน้านี้คือ8.5%ด้วยเหตุนี้อาจส่งผลให้จีนต้องปรับนโยบายในหลายด้านเพื่อเร่งให้เศรษฐกิจโตขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการไทยก็ควรจะติดตามสถานการณ์การปรับนโยบายของจีนต่อไปเพื่อจะได้รับมือกับนโยบายที่อาจจะมีผลกระทบมายังภาคการค้าที่เกี่ยวข้อง

       ด้านศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ปรับประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนทั้งปี 2564 ลงมาในกรอบ 7.5–8% เมื่อเทียบปีต่อปี จากความเสี่ยงด้านวิกฤตพลังงานที่อาจจะทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงฤดูหนาวซึ่งอาจมีผลกระทบเศรษฐกิจเป็นวงกว้างทั้งภาคผลิตและภาคบริการกอปรกับปัญหาเดิมที่ยังคั่งค้าง อาทิการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่ส่งกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์และบรรยากาศการลงทุนของจีนในภาพรวมรวมถึงความเสี่ยงด้านสงครามทางการค้าที่ยังไม่คลี่คลาย และการออกมาตรการของทางการในการควบคุมธุรกิจต่างๆเพิ่มเติมทั้งนี้เชื่อว่าทางการจีนจะประคับประคองเศรษฐกิจให้ขยายตัวไม่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือขยายตัวทั้งปี2564 ไม่ต่ำกว่า 6% ได้

Tags: