หมู่บ้านเหยาโถว พลิกฟื้น “เตาเผาโบราณพันปี” ต่อยอดสู่แหล่งท่องเที่ยววัฒนธรรม

        แสงแดดยามฤดูใบไม้ร่วงส่องลงบน “หมู่บ้านเหยาโถว” ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลเหยาโถวอำเภอเฉิงเฉิง เมืองเว่ยหนาน มณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน หมู่บ้านเก่าแก่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฉิน–ฮั่นและเคยเป็นศูนย์กลางการผลิตและค้าขายเครื่องปั้นดินเผาที่สำคัญของพื้นที่ทางตะวันออกของภูมิภาคกวานจงในอดีต

        ปี 2556 หมู่บ้านเหยาโถวได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน “รายชื่อหมู่บ้านดั้งเดิมของจีน” แหล่งโบราณสถานเตาเผาเหยาโถวซึ่งประกอบด้วยเตาเผาโบราณ 129 แห่งเวิร์กชอปผลิตเครื่องปั้นดินเผา 78 แห่ง บ้านโบราณ 75หลัง และศาลเจ้าศาลบรรพบุรุษ 17 แห่งรวมถึงชั้นกองเศษชิ้นส่วนเครื่องปั้นดินเผา 3 จุดถือเป็นกลุ่มเตาเผาโบราณแบบดั้งเดิมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดในลุ่มแม่น้ำเหลืองได้รับการขนานนามว่าเป็น “ฟอสซิลมีชีวิตแห่งเครื่องปั้นดินเผาพื้นบ้านจีน” และ “พิพิธภัณฑ์เตาเผาพื้นบ้านตามธรรมชาติ”

        รัฐบาลท้องถิ่นใช้งบกว่า 33.5 ล้านหยวนบูรณะอาคารประวัติศาสตร์รวมถึงอนุรักษ์ถ้ำที่อยู่อาศัยและบ้านโบราณกว่า 1,200 หลังทำให้หมู่บ้านที่เงียบงันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

        หลิวจงหยาง ผู้สืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ระดับชาติด้านศิลปะเครื่องปั้นดินเผาเหยาโถวเล่าว่า“เครื่องปั้นดินเผาเหยาโถวต้องผ่านกว่า 72 ขั้นตอน  ตั้งแต่การคัดเลือกดิน นวดดิน การขึ้นรูป และการเคลือบเงาทุกขั้นตอนล้วนต้องใส่ใจอย่างพิถีพิถัน”

        มีดเล็กในมือของเขาค่อยๆเคลื่อนผ่านผิวเซรามิก ลวดลายค่อยปรากฏทีละเส้น หลิวจงหยางยังเปิดเวิร์กชอปถ่ายทอดความรู้ให้คนรุ่นใหม่ปัจจุบันมีลูกศิษย์ที่เชี่ยวชาญด้านงานปั้นจำนวน 11 คน

        นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรม “มรดกวัฒนธรรมสู่โรงเรียน” เปิดชั้นเรียนงานเครื่องปั้นดินเผาให้เด็กๆได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และภูมิปัญญาของหมู่บ้านตั้งแต่วัยเยาว์ โดยกิจกรรมดังกล่าวดำเนินมาต่อเนื่องเป็นเวลา7 ปีแล้ว ครอบคลุมโรงเรียนประถมและโรงเรียนอนุบาลกว่า 10 แห่งในอำเภอเฉิงเฉิง และให้ความรู้กับนักเรียนแล้วกว่าหมื่นคน

        การอนุรักษ์วัฒนธรรมยังนำไปสู่การท่องเที่ยว หมู่บ้านแห่งนี้ได้พัฒนาเป็น“อุทยานท่องเที่ยววัฒนธรรมเตาเผาเหยาโถว”มีจุดชมเตาโบราณและกิจกรรมทำเครื่องปั้นดินเผา ดึงดูดนักท่องเที่ยวปีละกว่า 300,000คน และสร้างงานให้ครัวเรือนในพื้นที่กว่า 50 ครัวเรือน

        หมู่บ้านเหยาโถวจึงกลายเป็นตัวอย่างของการผสาน “การอนุรักษ์วัฒนธรรม +การพัฒนาชนบท” ที่เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

‍

ที่มา: People’s Daily Online