
Haier ทุ่ม 1 หมื่นล้าน ผุดโรงงานแอร์ใหม่ที่ชลบุรี ตั้งเป้า 3 ปีผลิต 12.5 ล้านเครื่อง

24
September
2025

23
September
2025



วันที่ 23 กันยายน 2568 ไฮเออร์ (Haier) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกและแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ1 ของโลกติดต่อกัน 16 ปีซ้อน ประกาศก้าวสำคัญด้านการลงทุนในประเทศไทย เปิดโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE) 3 จ.ชลบุรีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 324,000ตร.ม. รองรับทั้งตลาดในประเทศและการส่งออก กำลังผลิตสูงสุดกว่า 6 ล้านเครื่องต่อปีเฟสแรกเริ่มเดินสายการผลิตเดือนกันยายน 2568 ตั้งเป้า 3 ปี (2568–2570) ผลิต 12.5 ล้านเครื่องมูลค่ารวมราว 63,650 ล้านบาท



มร.โจว หยุนเจี๋ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์กรุ๊ป กล่าวว่า ไทยกำลังก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม New S-Curve โดยเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในเสาหลักที่มีศักยภาพสูงการลงทุนครั้งนี้สะท้อนความเชื่อมั่นของไฮเออร์ต่อเศรษฐกิจไทย และยกระดับให้ไทยเป็นฐานการผลิตเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียนเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน การผลิต วิจัย พัฒนา และส่งออกสู่ตลาดโลก โดยโครงการนี้ยังถือเป็นหมุดหมายสำคัญของความร่วมมือไทย–จีนในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตปีนี้ด้วย


การลงทุนในโรงงานแห่งใหม่นี้สอดรับกับยุทธศาสตร์S-Curve และนโยบายThailand 4.0 ด้วยการยกระดับสู่มาตรฐานการผลิตใหม่ผ่านเทคโนโลยี SmartManufacturing และระบบจัดการที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) พร้อมวางแผนการผลิตไว้เป็น3 เฟสอย่างเป็นระบบโดยเฟสแรกจะเริ่มเดินสายการผลิตเดือนกันยายน 2568 ตั้งเป้าผลิต 3 ล้านเครื่อง มูลค่า14,700ล้านบาท ปี 2569 เพิ่มเป็น 3.5 ล้านเครื่อง มูลค่า 17,800ล้านบาท และปี 2570 แตะระดับสูงสุดที่ 6 ล้านเครื่อง มูลค่าราว 31,150ล้านบาท ทำให้โรงงานนี้เป็นฐานผลิตเครื่องปรับอากาศใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาค


โรงงานแห่งนี้ออกแบบตามแนวคิด Green & Sustainable Manufacturingสร้างงานในพื้นที่กว่า 3,000ตำแหน่ง กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น รองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในอาเซียน ตะวันออกกลางและตลาดโลก

“การเข้ามาลงทุนของไฮเออร์ยังตอกย้ำให้เห็นภาพลักษณ์ด้านความเชื่อมั่นประเทศไทยที่มีจุดแข็งทั้งการมีแรงงานฝีมือที่ปรับตัวได้รวดเร็วโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่เชื่อมต่อได้ครบทั้งภูมิภาค และระบบนิเวศทางอุตสาหกรรมที่สามารถรองรับการเติบโตของผู้ประกอบการทุกระดับตั้งแต่ซัพพลายเออร์ท้องถิ่นไปจนถึงการวิจัยและพัฒนา ถือเป็น ‘Innovation Ecosystem’ ที่มความแตกต่างจากในภูมิภาคการลงทุนครั้งนี้ยังช่วยเสริมแบรนด์ ‘Made in Thailand’ ให้มีความแข็งแกร่งขึ้น โดยสะท้อนคุณภาพมาตรฐาน และความน่าเชื่อถือที่สอดคล้องกับตลาดและผู้บริโภค

นอกจากนี้ ไฮเออร์ยังมีแผนลงทุนระยะยาว สู่ Smart Factory แบบครบวงจรใช้อัตโนมัติและดิจิทัลขั้นสูง พร้อมจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมและ R&D เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและคุณภาพสินค้าซึ่งมั่นใจว่าก้าวต่อไปของไฮเออร์จะช่วยผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะที่สำคัญของอาเซียน”มร. โจว หยุนเจี๋ย กล่าวสรุป
