China 360°

คนรวยที่สุดในจีน ทำธุรกิจอะไรกัน ?

14

April

2023

14

April

2023

        เมื่อเร็วๆนี้ นิตยสาร Forbes (ฟอร์บส์) ได้เผยแพร่รายชื่อ 10 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในจีนประจำปี  2023  มาดูกันว่า แต่ละคนเป็นใคร ?และทำธุรกิจอะไรถึงได้รวยขนาดนี้ ?

        1. จง สานส่าน (Zhong Shanshan)  

        ผู้ก่อตั้งน้ำดื่ม NongfuSpring  |  ธุรกิจ :เครื่องดื่ม , เภสัชภัณฑ์ | มูลค่าทรัพย์สิน : 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  

        มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของจีนติดต่อกัน 3 ปีซ้อน และรวยติดอันดับ 15 ของโลก ผู้ก่อตั้ง“หนงฟูสปริง” (Nongfu Spring – 农夫山泉 ) แบรนด์น้ำดื่มฝาแดงที่มีขายทั่วจีน และเจ้าตลาดเครื่องดื่มบรรจุขวด ทั้งน้ำผลไม้ ชาพร้อมดื่ม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพฯลฯ นอกจากนี้ ยังเป็นประธานบริษัท Beijing Wantai Biological Pharmacy ผู้ผลิตสินค้าทางการแพทย์และเภสัชภัณฑ์ อาทิ ชุดทดสอบ Covid-19 ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จีน

         ‘จง สานส่าน’ ครองแชมป์เป็นมหาเศรษฐีอันดับ1 ของจีน ต่อเนื่องติดกันมาแล้ว 3 ปี (ปี 2564 - 2566) ความร่ำรวยแบบก้าวกระโดดจนแซงมหาเศรษฐีจีนหลายคน มาจากการนำบริษัทน้ำดื่ม Nongfu เข้าตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกงในเดือน ก.ย. 2564

        ปีนี้ มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดของจีนรายนี้ มีมูลค่าประมาณ 68,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  เพิ่มขึ้นจาก 65,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว แม้การเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะได้รับผลกระทบจากโควิด แต่ความต้องการบริโภคน้ำดื่มบรรจุขวดไม่ได้ลดลง

        2.จาง อี้หมิง (Zhang Yiming)  

        ผู้ก่อตั้ง ByteDance เจ้าของแอปฯ TikTok  | ธุรกิจ : สื่อออนไลน์  | มูลค่าทรัพย์สิน : 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  

        ผู้ก่อตั้ง ByteDance เจ้าของแอปพลิเคชันTikTok หนึ่งในบริษัท Startup ระดับยูนิคอร์นที่มีมูลค่ากิจการสูงที่สุดในโลก  แม้การประเมินมูลค่าธุรกิจของ ByteDance ในปีนี้ จะลดลงมาอยู่ที่ 225,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ  จากมูลค่า 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว ท่ามกลางแรงกดดันการถูกแบนจากสหรัฐฯ

        ปัจจุบัน ‘จาง อี้หมิง’ เป็นเจ้าของหุ้นสัดส่วน 20% ใน ByteDance โดยเขาได้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานบอร์ด และ CEO ของ ByteDance ในปี 2563ท่ามกลางข่าวแรงกดดันการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีของรัฐบาลจีน  

        3.หม่า ฮว่าเถิง (Pony Ma)  

        ผู้ก่อตั้ง  Tencent  | ธุรกิจ: สื่อออนไลน์  | มูลค่าทรัพย์สิน  3.53 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  

        ‘หม่า ฮว่าเถิง’ หรือ “โพนี่ หม่า” ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Tencent ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลและโซลูชันด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอาทิ  WeChat, QQ และเกมออนไลน์รายใหญ่ของจีน  

        หม่าถือครองหุ้นบริษัทTencent ในสัดส่วนประมาณ  7.4%  ช่วงปีที่ผ่านมา หุ้นTencent ที่ซื้อขายในฮ่องกง มีมูลค่าลดลงเกือบ 10% ท่ามกลางการเติบโตที่ชะลอตัวลง และมาตรการคุมเข้มธุรกิจอินเทอร์เน็ตของทางการจีน

        4. หวง เจิง (Colin Huang)

        ผู้ก่อตั้ง Pinduoduo | ธุรกิจ : E-Commerce |มูลค่าทรัพย์สิน: 3.02 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  

         ‘หวง เจิง’ หรือ ‘โคลิน หวง’ เป็นผู้ก่อตั้ง PDD Holdings บริษัทอีคอมเมิร์ซของจีนที่เปลี่ยนชื่อจาก Pinduoduo  เมื่อเดือน ก.พ.2565  

        ปีที่แล้ว หุ้นของ PDD ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ที่อเมริกา มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นถึงกว่าเท่าตัว  โดยได้รับอานิสงส์จากการเปิดตัวแพลตฟอร์ม  Temu เว็บชอปปิงสินค้าราคาประหยัดในสหรัฐฯในเดือน ก.ย. 2565

        ‘หวง เจิง’ ก้าวลงจากตำแหน่งประธานบริษัทฯ เมื่อเดือนมี.ค. 2564 โดยเป็นเจ้าของหุ้นในสัดส่วนเกือบ 28% ของ PDD Holdings

        5. ติง เหล่ย (William Ding)

        ผู้ก่อตั้ง NetEase  | ธุรกิจ :เกมออนไลน์  | มูลค่าทรัพย์สิน: 2.67 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  

        ‘ติง เหล่ย’ หรือ ‘วิลเลียม ติง’  เป็นซีอีโอของ NetEase หนึ่งในธุรกิจเกมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq และตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง

        มูลค่าหุ้นและทรัพย์สินของติงปรับเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่จีนผ่อนปรนมาตรการควบคุมการนำเข้าเกมต่างประเทศที่คุมเข้มมา 2 ปี

 

       6. แจ็ค หม่า (Jack Ma)

        ผู้ก่อตั้ง Alibaba  | ธุรกิจ : E-Commerce| มูลค่าทรัพย์สิน : 2.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  

        ‘แจ็ค หม่า’ มหาเศรษฐีจีน ผู้ร่วมก่อตั้งและ อดีตประธาน  Alibaba Group ต้นแบบไอคอนนักธุรกิจภาคเอกชนจีนที่ประสบความสำเร็จ  

        ล่าสุด เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ข่าวการกลับประเทศจีนของ  ‘แจ็ค หม่า’ ได้สร้างกระแสความฮือฮา หลังจากที่เขาเงียบหายไปจากสาธารณชนจีน หลบไปอยู่ต่างประเทศนานพักใหญ่ ท่ามกลางแรงกระเพื่อมจากนโยบายการควบคุมธุรกิจอินเทอร์เน็ตของรัฐบาลจีน ปัจจุบัน ‘แจ็ค หม่า’ยังคงถือหุ้นสัดส่วนประมาณ 3.8% ในอาลีบาบา

        7. เหอ เสี่ยงเจี้ยน (He Xiangjian)

        ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท Midea Group | ธุรกิจ : เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน  | มูลค่าทรัพย์สิน : 2.34หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  

        ‘เหอ เสี่ยงเจี้ยน’ เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Midea Group บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน  เขาก้าวลงจากตำแหน่งประธานของMidea ตั้งแต่ปี 2555

        เมื่อปีที่แล้ว มูลค่าหุ้นของ Midea ตกลง ท่ามกลางการเติบโตที่ชะลอตัวลงในประเทศจีน ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีไมเดียลดลงจาก 2.83 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 2.34 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

       

         8. หวัง เว่ย (Wang Wei)

        ผู้ก่อตั้ง S.F. Holdings | ธุรกิจ : บริการขนส่งพัสดุ | มูลค่าทรัพย์สิน : 2.12 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  

        ‘หวัง เว่ย’ ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท S.F. Holdings ยักษ์ใหญ่แห่งวงการธุรกิจขนส่งพัสดุ ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบบูรณาการรายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลกในแง่มูลค่ารายได้

        มูลค่าทรัพย์สินของ ‘หวัง เว่ย’ ลดลงจาก 2.43 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น

        9. หลี่ ซูฝู (Li Shufu)

        ผู้ก่อตั้ง ZhejiangGeely Holding | ธุรกิจ : รถยนต์ | มูลค่าทรัพย์สิน : 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  

        ‘หลี่ ซูฝู’ มหาเศรษฐีแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์จีน ผู้ก่อตั้งและประธาน Zhejiang Geely Holding Group (Geely)  ซึ่งถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังอาทิ  Volvo, Daimler, Geely Automotive และ Polestar

        ช่วงปีที่ผ่านมา มูลค่าทรัพย์สินของเขาลดลง 4.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  เนื่องจากหุ้น Geely Automotive ราคาร่วงลง  

        10. หวัง เหวินหยิน (Wang Wenyin)

        ผู้ก่อตั้ง Amer International Group  | ธุรกิจ : โลหะ (Non-ferrousmetals) | มูลค่าทรัพย์สิน : 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ  

        ‘หวัง เหวินหยิน’ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัท  Amer International Group ซึ่งเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์โลหะที่ไม่ใช่เหล็ก (Non-ferrous metals) รายใหญ่ที่สุดของโลก

        บริษัทฯ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเซินเจิ้น มีพนักงานกว่า 30,000 คน สามารถทำรายได้ในปี 2564 ได้สูงถึง 1.12 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย‘หวัง เหวิน หยิน’ เป็นเจ้าของหุ้นบริษัท Amer ในสัดส่วน 75%

------------------------------------------------------------------------------------

ที่มา : Forbes

Tags: