Business

BYD ยักษ์ใหญ่รถ EV จีนมาแล้ว ! จับมือ‘เรเว่ ออโตโมทีฟ’บุกตลาดไทย เปิดตัวรุ่นแรกไตรมาส 4/2565

23

August

2022

9

August

2022

        นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตา เมื่อ BYD แบรนด์จีนระดับโลกที่มียอดขายรถยนต์พลังงานใหม่สูงที่สุดแซงหน้า Tesla เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกให้คนไทยได้จับจองเป็นเจ้าของในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้  

        การบุกตลาดไทยครั้งนี้ของ BYD เป็นการจับมือร่วมกับพาร์ทเนอร์ในไทย RÊVER Automotive (เรเว่ ออโตโมทีฟ) ซึ่งได้มีการเปิดตัวบริษัทฯ อย่างเป็นทางการเมื่อ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายแต่เพียงผู้เดียวสำหรับกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของ BYD ในประเทศไทย

แถลงข่าวเปิดตัว เรเว่ ออโตโมทีฟ 8 ส.ค.

        RÊVER Automotive เป็นบริษัทคนรุ่นใหม่ที่ก่อตั้งโดย ประธานวงศ์ และประธานพร พรประภา ทายาทกลุ่มสยามกลการ หนึ่งในธุรกิจรถยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดของไทย โดยชื่อ RÊVER (เรเว่) มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “ความฝัน” สอดคล้องกับ BYD ที่มาจากคำว่า “Build Your Dreams” จุดเชื่อมโยงของ 2 บริษัทคือการสร้างสิ่งแวดล้อมในฝัน มอบอากาศสะอาดให้กับมวลมนุษยชาติ

        “ความมุ่งมั่นของ RÊVER Automotive คือการเป็น Solutions Provider ด้านพลังงานในฝันรูปแบบใหม่ หรือ New Dream Energy  เริ่มต้นจากการนำเข้า BYD รถยนต์ EV อันดับต้นของโลก เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ” ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท RÊVER Automotive จำกัด กล่าว

ลงทุน 3,000 ล้านบาท ตั้งเป้าติด TOP5 ตลาดรถยนต์ไทยใน 5 ปี

        เบื้องต้น RÊVER Automotive ได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมปั้น BYD ให้เป็น Top 5 ในตลาดยานยนต์ไทยภายใน 5 ปี โดยวางเป้ายอดขายในปีแรกไว้ที่แตะหลักหมื่นคัน ด้วยการใช้กลยุทธ์ที่ผนึกกำลังจากทั้งความรู้ความชำนาญในธุรกิจรถยนต์ของทีมงาน ร่วมกับจุดแข็งด้านเทคโนโลยีของ BYD ไม่ว่าจะเป็น Blade Battery ที่ขึ้นแท่นเป็นแบตเตอรี่ EV ที่ดีและปลอดภัยที่สุดในตลาด ผ่านการทดสอบชนิดเอ็กซ์ตรีมที่เรียกว่า "Nail Penetration Test"  รวมถึงจุดเด่นของ "e-platform 3.0" แพลตฟอร์มแห่งอนาคตที่ยกระดับการขับขี่รถยนต์ EV ไปอีกขั้น ทั้งอัตราการเร่ง ระยะทางขับขี่ และความเร็วในการชาร์จ การควบคุมอุณหภูมิให้ต่ำอย่างเสถียร  

        ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ แต่ยังไม่เปิดเผยรุ่น หรือช่วงราคารถที่จะนำเข้ามาจำหน่าย โดยภายในปีนี้จะมีการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการหลังการขายเต็มรูปแบบ 31 แห่ง และตั้งเป้าขยายเพิ่มอีกเท่าตัวเป็น 60 - 70 แห่งในปีหน้า นอกจากนี้ยังร่วมมือกับ SHARGE เพื่อเปิดสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นจากเดิมในไทยให้ถึง 1,000สถานี ครอบคลุมทั้งประเทศ

ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท RÊVERAutomotive

        สำหรับรถยนต์ของ BYD ที่นำเข้ามาจำหน่าย ในช่วงต้นจะเป็นการนำเข้าทั้งคัน แต่ในขณะเดียวกันก็จะดำเนินการก่อตั้งโรงงานผลิตและประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในประเทศ โดยมีมาตรฐานเดียวกับ BYD ทั่วโลก เพื่อให้เป็นไปตามและสอดคล้องกับนโยบายสนับสนุนการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล โดยในอนาคตคนไทยจะได้สัมผัสยานยนต์ไฟฟ้า BYD หลากหลายรุ่น ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ

รู้จัก BYD แบรนด์จีนระดับโลก

        ชื่อของ BYD ย่อมาจาก Build Your Dreams เริ่มก่อตั้งธุรกิจในปี 2538 เมื่อ 27 ปีที่แล้ว โดย Wang Chuanfu ธุรกิจแรกเริ่มของบริษัทคือการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนให้มือถือแบรนด์ต่าง ๆ อาทิ NOKIA ก่อนจะเข้าสู่ตลาดรถยนต์ในปี 2546 และเป็นผู้ผลิตรถยนต์ Plug-in Hybrid เจ้าแรก ๆ ในปี 2551 รวมทั้งก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าระบบราง รถบัสไฟฟ้า รวมถึงรถบรรทุกไฟฟ้า

        ในปี 2565 BYD ได้ประกาศยกเลิกการผลิตรถยนต์สันดาป และผลิตยานยนต์ไฟฟ้า 100% เป็น "รายแรกของโลก" ขณะที่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 BYD สามารถทำยอดขายรวมกว่า 640,000 คัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่รถยนต์สัญชาติจีน แซงหน้า Tesla ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลกในด้านยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (New Energy Vehicle)

e platform 3.0

        นอกจากนี้ ยังครองความเป็นเจ้าตลาดในจีนด้วยยอดขายอันดับ 1 ถึง 9 ปีซ้อน และได้รับกระแสตอบรับจากทั่วโลก ด้วยยอดขายสะสมตั้งแต่ ปี 2562 - มิ.ย.2565 รวม 2,150,859 คัน โดยรถยนต์นั่งรุ่นเรือธงของ BYD ได้แก่ Han EV เริ่มสัญจรโลดแล่นให้เห็นบนท้องถนนในหลายประเทศและภูมิภาคทั่วโลก

        ปัจจุบัน BYD ขยายธุรกิจ ไปกว่า 400 เมือง ในกว่า 70 ประเทศและภูมิภาค ครอบคลุม 6 ทวีป โดยเป็นองค์กรไฮเทคชั้นนำของโลก ที่มีขอบเขตธุรกิจครอบคลุมด้านอิเล็กทรอนิกส์, พลังงานใหม่, การขนส่งระบบราง และรถยนต์พลังงานใหม่ โดยเป้าหมายของ BYD คือการเปลี่ยนโลกด้วยการสร้างระบบนิเวศไร้มลพิษจากพลังงานสะอาด ด้วยวิสัยทัศน์“ทำให้โลกเย็นลง 1 องศาเซลเซียส”

สำนักงานใหญ่ BYD global headquarters
Tags: