ส่องอุตสาหรรมอาหารทำเงิน: งาน CAEXPO ดัน ‘ก๋วยเตี๋ยวข้าวกว่างซี’ สู่ตลาดอาเซียน
16
March
2022
24
November
2021
ผู้เขียน : กวน ชิวอวิ้น นิตยสาร CAP
มีคำกล่าวว่าชาวกว่างซีเริ่มต้นวันใหม่ด้วยก๋วยเตี๋ยวข้าวชามหนึ่ง ก๋วยเตี๋ยวข้าวหอมกรุ่นไม่เพียงแต่ช่วยให้อิ่มท้องเท่านั้น ทั้งหลัวซือเฝิ่น (ก๋วยเตี๋ยวหอยขม / 螺蛳粉) ของหลิ่วโจว, หลาวโหยวเฝิ่น (ก๋วยเตี๋ยวสหายเก่า / 老友粉) ของหนานหนิง, หนิวหนานเฝิ่น (ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว / 牛腩粉) ของอวี้หลิน หรือ หลู่ไฉ่เฝิ่น (ก๋วยเตี๋ยวตุ๋นเครื่องพะโล้ / 卤菜粉) ของกุ้ยหลิน ล้วนแต่เป็นเครื่องหมายทางวัฒนธรรมและตัวแทนสื่อถึงบ้านเกิดที่มีความพิเศษในจิตใจของผู้คน
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยแพลตฟอร์มงาน China-ASEAN Expo (CAEXPO) ก๋วยเตี๋ยวข้าวธรรมดาเหล่านี้ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ตลาดอาเซียน ชนะใจเหล่าผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังก่อให้เกิดอุตสาหกรรมอาหารระดับหมื่นล้านหยวนด้วย
กลิ่นหอมของ ‘ก๋วยเตี๋ยวข้าวกว่างซี’ อบอวลทั่วงาน CAEXPO
ใส่หอยขม เม็ดยี่หร่า เปลือกส้ม พริกไทย และเครื่องเทศอื่นๆลงไปเคี่ยวทำน้ำซุป ตามด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวนุ่มลื่นที่ทำมาจากข้าว หน่อไม้เปรี้ยว เห็ดหูหนู ถั่วลิสง ฟองเต้าหู้ทอด... เท่านี้หลัวซือรสชาติเข้มข้นก็พร้อมเสิร์ฟ ในวันแรกของงาน CAEXPO ครั้งที่ 18 ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติหนานหนิง โซนก๋วยเตี๋ยวข้าวได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ
"พอเข้าไปในห้องโถงเราได้กลิ่นก๋วยเตี๋ยวข้าวโชยมาแต่ไกล หลังจากชิมแล้วก็ตัดสินใจสั่งกลับบ้านสองกล่องทันที แบรนด์ก๋วยเตี๋ยวข้าวที่โปรโมทในงาน CAEXPO ล้วนแต่มีชื่อเสียงและรับประกันคุณภาพ สำหรับคนรักก๋วยเตี๋ยวอย่างพวกเรา ไม่ว่าจะสั่งแบรนด์ไหนก็ไม่มีทางผิดหวังอย่างแน่นอน” คุณหวง ผู้เข้าร่วมงาน CAEXPO กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ช่วงไม่กี่ปีมานี้ กระแสหลัวซือเฝิ่นกำลังมาแรง ทำให้คำว่า “ซัวเฝิ่น” (ซู้ดก๋วยเตี๋ยว / 嗦粉) กลายเป็นคำศัพท์ฮิตติดเทรนด์ ก๋วยเตี๋ยวข้าวที่ “ได้กลิ่นรู้สึกเหม็น ได้กินรู้สึกหอม" นี้ไม่เพียงแต่ขายดีในจีนเท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมมากตลาดอาเซียนด้วย
ในงาน CAEXPO ครั้งที่ 18 มีหลัวซือเฝิ่นแบรนด์ดังอย่าง "ซีหลัวฮุ่ย” (嘻螺会), “ห่าวฮวานหลัว” (好欢螺) และ “หลัวป้าหวัง" (螺霸王) ร่วมออกบูธในงาน โดยมีจำนวนการชิมมากถึง 2,000 ชุดภายในหนึ่งชั่วโมง "การมาร่วมออกบูธภายในงาน CAEXPO ครั้งนี้ของแบรนด์หลัวซือเฝิ่นต่างๆในเมืองหลิ่วโจว นอกเหนือจากเป็นการช่วยโปรโมทสินค้าที่มีชื่อเสียงเป็นเอกลักษณ์ของเมืองหลิ่วโจวแล้ว ยังเป็นการขยายอิทธิพลของแบรนด์โดยอาศัยแพลตฟอร์มงาน CAEXPO ด้วย” หวัง ตี๋ซือ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของแบรนด์ห่าวฮวานหลัวกล่าว พร้อมกับให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันห่าวฮวานหลัวมีตัวแทนจำหน่ายใน 5 ประเทศอาเซียนรวมถึงเวียดนาม และได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือมากมายจากการมาเข้าร่วมงาน CAEXPO ครั้งนี้ ในอนาคตห่าวฮวานหลัวมีแผนจะขยายตลาดครอบคลุม 10 ประเทศอาเซียน โดยคาดว่าเงินที่ได้จากการลงนามกับตัวแทนจัดจำหน่ายจะมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านหยวน
นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกที่งาน CAEXPO เมื่อปี 2560 กุ้ยหลินหมีเฝิ่นแบรนด์เก่าแก่อย่าง “เหล่าเหยียนเจีย” (老盐街) ได้ดึงดูดผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัย ขั้นตอนการปรุงที่สะดวกง่ายดาย และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ หลังจากเข้าร่วมงาน CAEXPO สินค้ายอดนิยมของแบรนด์อย่าง “ก๋วยเตี๋ยวหมูกรอบกึ่งสำเร็จรูป” และ “ก๋วยเตี๋ยวตุ๋นพะโล้สำเร็จรูป” ได้ปรากฏตัวในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซออนไลน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง Lazada, JD CENTRAL, Alibaba และมียอดขายเพิ่มขึ้นทุกปี
ตัวแทนจากบริษัท “เหล่าเหยียนเจีย” ให้ข้อมูลว่า จากการเข้าร่วมงาน CAEXPO ครั้งที่ 18 มีผู้ประกอบการจากอาเซียนหลายรายสนใจที่จะเป็นพันธมิตรกับทางบริษัทฯ และในอนาคตอาจมีแผนขยายธุรกิจสู่ตลาดประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างประเทศไทยและสิงคโปร์ผ่านการจำหน่ายสินค้าผ่านหน้าร้าน (Physical Store) ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการโปรโมทสินค้าในตลาดต่างประเทศ และขยายธุรกิจในตลาดอาเซียน
นอกจากนี้ ในงาน CAEXPO ครั้งที่ 18 “หลาวโหยวเฝิ่น” ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกว่างซีเมื่อปี 2550 ก็ได้รับความสนใจไม่แพ้กัน “ก่อนหน้านี้ผมเคยได้ยินแต่ชื่อหลัวซือเฝิ่น ไม่นึกว่าหลาวโหยวเฝิ่นจะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นไม่แพ้กัน ผมอยากจะนำรสชาตินี้กลับไปแบ่งปันกับผู้คนที่มาเลเซีย” Lim Kah Meng ตัวแทนจากบริษัทนำเข้าส่งออกอาหารจีน-มาเลเซียแห่งหนึ่งในเมืองหนานหนิงกล่าว ที่บูธหลาวโหยวเฝิ่นของแบรนด์ “เทียนฝูเซียง” (天福香) ภายในงานครั้งนี้ เขาไม่เพียงแต่ได้ลิ้มรสชาติหลาวโหยวเฝิ่นต้นตำรับหนานหนิง แต่ยังได้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจผ่านหลาวโหยวเฝิ่นด้วย
ด้วยบทบาทการเป็นสื่อกลางของงาน CAEXPO ก๋วยเตี๋ยวข้าวแต่ละท้องที่ของกว่างซี กำลังพลิกโฉมจาก “อาหารข้างทาง” กลายเป็น “สินค้าอุตสาหกรรมระดับเมือง” และกำลังต่อยอดไปสู่ตลาดอาเซียนและเป็นที่รู้จักในแวดวงนักกินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น
‘การตลาดยุคดิจิทัล’ ช่วยโปรโมทก๋วยเตี๋ยวข้าวกว่างซี
เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์ก๋วยเตี๋ยวข้าวของกว่างซีให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผู้ประกอบการหลายรายที่เข้าร่วมในงาน CAEXPO ปีนี้ เลือกที่จะใช้รูปแบบการตลาดที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง “การไลฟ์สด” ซึ่งช่วยโปรโมทแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ “วันนี้เรายกสินค้าในงานมาไว้บนไลฟ์สด ทุกท่านสามารถซื้อก๋วยเตี๋ยวข้าวต้นตำรับแท้ๆจากกว่างซีได้ที่นี่ และรับไปเลยส่วนลดพิเศษ เมื่อสั่งซื้อระหว่างช่วงวันจัดงาน CAEXPO” เวยย่า (Viya) Influencer สาวชื่อดังของจีนไลฟ์โปรโมทก๋วยเตี๋ยวข้าวกว่างซี ในกิจกรรมเทศกาลสินค้าคัดสรรงาน CAEXPO ครั้งที่ 18 เมื่อเย็นวันที่ 10 ก.ย.2564 โดยคลิปไลฟ์สดดังกล่าวมียอดวิวมากกว่า 18.55 ล้านครั้ง ขณะที่ยอดพรีออเดอร์และสั่งซื้อผ่านไลฟ์สด เฉพาะหลัวซือเฝิ่นเพียงอย่างเดียว มีมูลค่าสูงถึง 2.23 ล้านหยวน
ด้านก๋วยเตี๋ยวข้าวกว่างซีแบรนด์อื่นๆอย่าง เฝิ่นจือตู (粉之都), “ซิ่วต้าเจี่ย” (秀大姐) และ “กู่หยวนเซียง” (古源香) ได้พากันเข้าร่วมในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ “CAEXPO Shop” ของงาน Online CAEXPO โดยผู้ซื้อจากต่างประเทศสามารถเข้ามาเยี่ยมชมและสั่งซื้อสินค้ากับร้านค้าทางการของแบรนด์ได้โดยตรง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2563 “หลัวซือเฝิ่นสไตล์เมียนมา” ได้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน CAEXPO ครั้งที่ 17 หลัวซือเฝิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกวางจำหน่ายภายใต้ชื่อ “หลัวซือเฝิ่นรสชาติบ้านเกิด” เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างเมียนมากับฐานการผลิตหลัวซือเฝิ่นในเมืองหลิ่วโจว ตัวเส้นทำมาจากปลายข้าวของเมียนมา และมีการนำซองเครื่องปรุงหอยขมออกไป เพื่อให้ถูกปากผู้บริโภคชาวเมียนมาซึ่งปกติไม่นิยมรับประทานหอยขม
“งาน CAEXPO เป็นเสมือนบานหน้าต่างที่เชื่อมโยงกับทั่วโลก เราหวังว่าจะได้โปรโมทสินค้าที่เกิดจากการประสานข้อได้เปรียบระหว่างจีนกับเมียนมาผ่านงาน CAEXPO ไปยังอาเซียนและทั่วโลก” Dr.Shwe Zin Ko ที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์ สถานกงสุลใหญ่เมียนมา ณ นครหนานหนิง กล่าว
งาน CAEXPO ช่องทางขยายฐานผู้บริโภค
เมื่อเทียบกับเส้นก๋วยเตี๋ยวในภูมิภาคอื่นๆ ของจีน เส้นก๋วยเตี๋ยวกว่างซีขึ้นชื่อในเรื่องกลิ่นหอมที่เข้มข้น และรสชาติเปรี้ยวเผ็ด รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์นี้ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบเส้นก๋วยเตี๋ยวอยากลิ้มรสไม่รู้จบ คำถามคือจะใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของงาน CAEXPO อย่างไร เพื่อให้ก๋วยเตี๋ยวข้าวต้นตำรับของกว่างซีสามารถเข้าถึงตลาดอาเซียนและผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้มากขึ้น
ในประเด็นนี้ สง ฉาวเซวียน ประธานบริษัท Guangxi Zhongliu Food Technology Co., Ltd. ชี้ให้เห็นว่า การมีผลบังคับใช้ของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) อย่างค่อยเป็นค่อยไปจะส่งเสริมการพัฒนาการค้าระหว่างจีนและอาเซียน อีกทั้งงาน CAEXPO ยังได้ขยายขอบเขตงานไปสู่กลุ่มประเทศ RCEP เวทีงาน CAEXPO ได้กลายเป็นก้าวที่มั่นคงสำหรับก๋วยเตี๋ยวข้าวกว่างซีที่จะก้าวไปสู่ตลาดอาเซียน
"นอกเหนือจากการรวบรวมผู้ประกอบการเพื่อเข้าร่วมในงานมหกรรมแสดงสินค้าขนาดใหญ่อย่าง CAEXPO แล้ว สิ่งสำคัญกว่าคือการเร่งคว้าโอกาสในการขยายและพัฒนาห่วงโซ่" เจี่ย เจี้ยนกง รองผู้อำนวยการกรมการค้าเมืองหลิ่วโจวกล่าว ทั้งนี้ งาน CAEXPO ได้มีส่วนช่วยสนับสนุนความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมก๋วยเตี๋ยวมาตั้งแต่การจัดงาน World Rice Noodle Expo ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2562 โดยจัดให้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนระหว่างผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมก๋วยเตี๋ยว กระชับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมก๋วยเตี๋ยวระหว่างจีนกับอาเซียน ตลอดจนระหว่างกว่างซีกับมณฑลอื่นๆของจีน
มีรายงานว่า ในงาน World Rice Noodle Expo 2021 ที่กำลังจะมาถึง จะมีการเพิ่มพื้นที่จัดแสดง โซนอีคอมเมิร์ซและเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ก๋วยเตี๋ยวข้าวกว่างซีเพิ่มเติม ตามติดเทรนด์อุตสาหกรรมก๋วยเตี๋ยวข้าวอย่างใกล้ชิด ใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบของงาน CAEXPO เพื่อส่งเสริมสร้างมาตรฐานตราสินค้าและความเป็นสากลให้กับอุตสาหกรรมก๋วยเตี๋ยวข้าวของกว่างซี
"ในอนาคตทุกคนควรจะโฟกัสไปที่โอกาสจากงาน Online CAEXPO เมื่อเทียบกับแบรนด์ขนาดใหญ่ วิธีการโปรโมทและขายสินค้าผ่านไลฟ์สดจะช่วยลดต้นทุนการตลาดและขนส่งให้กับแบรนด์เล็กๆอย่างเราได้เป็นอย่างมาก” ในมุมมองของ ‘เหอ’ ผู้จัดการฝ่ายวางแผนธุรกิจของกุ้ยหลินหมีเฝิ่นแบรนด์ “สือซานเว่ย” (拾叁味) การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มอย่างงาน Online CAEXPO อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน และการไลฟ์สด จะเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยขยายตลาดของแบรนด์ไปยังต่างประเทศ
งานมหกรรม CAEXPO ที่ยกระดับและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จะช่วยผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารจีน-อาเซียน และทำให้ก๋วยเตี๋ยวข้าวของกว่างซี ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมระดับหลักหมื่นล้านหยวนเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น