Highlight

‘นายกฯประยุทธ์’หารือ‘ประธานฯหัวเว่ย’ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล

12

January

2022

26

November

2021

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมหารือกับ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล เพื่อแสวงหาความร่วมมือเพิ่มเติม และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของไทยในอนาคต ตามนโยบายการนำพาประเทศไทยเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2560  

ผลักดันไทยก้าวสู่ผู้นำ 5G ของอาเซียน

        หลังการหารือ นายกฯประยุทธ์ ได้โพสต์ผ่าน Facebook : ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha ระบุว่า การหารือในครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันให้ไทยก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในระบบ 5G ของภูมิภาคอาเซียน รวมทั้งการเป็นศูนย์กลางด้าน Data Centers และการให้บริการ Cloud Services สำหรับทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชน ภาครัฐบาล และภาคธุรกิจเอกชนทั้งของไทยและต่างประเทศด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุด้วยว่า การเจรจาครั้งนี้เป็นไปได้อย่างดียิ่ง ก่อให้เกิดโอกาสในการสร้างความร่วมมือกันหลายด้าน ประเด็นสำคัญที่ได้หารือกัน เช่น

1. การส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุกมิติ ทั้งการแพทย์ การศึกษา การค้า ธุรกิจบริการ ท่องเที่ยว การเงิน การเกษตรและอุตสาหกรรมต่างๆ

2. การพัฒนา Cloud Platform สำหรับทุกภาคส่วนได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งต้องเป็นการลงทุนระยะยาวและต่อเนื่อง

3. การอบรม บ่มเพาะ และเร่งพัฒนาบุคลากรดิจิทัล นวัตกร และผู้ประกอบการ Startup ให้เป็น "เมล็ดพันธุ์แห่งอนาคต" (Seeds for the Future)

4. การพัฒนา Smart port และ Smart airport โดยการนำเทคโนโลยี 5G และปัญญาประดิษฐ์ (AI: Artificial Intelligence) มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ เป็นต้น

นายกฯ ชื่นชมหัวเว่ย..อวดหนังสือ 2 เล่มที่อ่าน

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ระหว่างการหารือครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ชื่นชมและเชื่อมั่นในศักยภาพด้านเทคโนโลยีของหัวเว่ย โดยเล่าว่า ได้อ่านหนังสือ “ใช่ หัวเว่ย หรือไม่ที่จะล้มเป็นรายต่อไป” เกี่ยวกับเรื่องราวของหัวเว่ย ปรัชญาการบริหารจัดการของประธานฯ เหริน เจิ้งเฟย และหนังสือ “Grow in Thailand, Contribute to Thailand” นอกจากนี้ ยังได้ขอขอบคุณหัวเว่ยที่เคียงข้างการพัฒนาด้านดิจิทัลของไทยมาตลอด

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “หัวเว่ยได้ให้การสนับสนุน ประเทศไทยอย่างเต็มที่ในการต่อสู้กับโรคระบาดและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ผมประทับใจในเรื่องราวความเป็นมา และวัฒนธรรมอันทุ่มเทของหัวเว่ยเป็นอย่างยิ่ง ในอนาคต ประเทศไทยยังคงสนใจและกระตือรือร้นที่จะร่วมมือกับหัวเว่ยในหลากหลายด้าน รวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล โรงพยาบาล 5G อัจฉริยะ คลาวด์และคอมพิวติ้ง พลังงานดิจิทัล ระบบขนส่งอัจฉริยะและศูนย์ข้อมูล”  

ประธานฯหัวเว่ยให้คำมั่นร่วมมือไทย พร้อมเดินหน้าผลักดันท่าเรือและสนามบินอัจฉริยะ

ด้าน เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ จำกัด ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลไทยในความเชื่อมั่นที่มีต่อหัวเว่ย และยินดีกับประเทศไทยในความสำเร็จของการใช้งานระบบ 5G โดยกล่าวว่า “หัวเว่ยและประเทศไทยได้ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตเรายังมองไปถึงการเร่งนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมหลักต่างๆในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมการท่าเรือและการบิน”

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนประเทศไทยตามแผนพัฒนาดิจิทัลในการก้าวขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลแห่งภูมิภาคอาเซียน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หัวเว่ยและประเทศไทยได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดใน 2 ด้าน ดังนี้

ด้านแรกคือการดำเนินงานให้สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยหัวเว่ยได้ทำงานร่วมกับลูกค้าโดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G Cloud และ AI เพื่อเร่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของประเทศไทย และนวัตกรรมโครงสร้างด้านไอซีทีให้เป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

หัวเว่ยยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรในภาคอุตสาหกรรมผลักดันทุกภาคส่วนที่เป็นกำลังสำคัญในประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านคมนาคม ด้านหน่วยงานภาครัฐ และด้านสมาร์ทซิตี้ เพื่อรองรับการพัฒนาทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงอีโคซิสเต็มด้านดิจิทัลของประเทศไทยในระยะยาว

ทั้งนี้ ความร่วมมือในด้านท่าเรือและสนามบินอัจฉริยะถือเป็นความร่วมมืออันเปี่ยมด้วยศักยภาพที่สำคัญสำหรับหัวเว่ยและประเทศไทย โดยประธานฯหัวเว่ยได้กล่าวถึงกรณีศึกษาที่ดีที่สุดของหัวเว่ยซึ่งใช้โซลูชันอัจฉริยะสำหรับท่าเรือและสนามบินในประเทศจีน รวมถึงความสามารถในการทำงานอัตโนมัติอันขึ้นอยู่กับปัจจัยโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นผู้คน ยานยนต์ สินค้า องค์กร และสถานที่ เพื่อช่วยสร้างสนามบินและท่าเรืออันชาญฉลาด มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยในระดับโลก

การหารือในครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันให้ไทยก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในระบบ 5G ของภูมิภาคอาเซียน

ในด้านที่สอง หัวเว่ยและประเทศไทยได้ร่วมทำงานอย่างใกล้ชิด ในการบ่มเพาะและยกระดับบุคลากรทางดิจิทัลที่มีความสามารถ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัลและการพัฒนาในระยะยาว โดยภาครัฐและภาคเอกชนจำเป็นต้องร่วมมือกันสร้างอีโคซิสเต็มที่เปิดกว้างให้บุคลากรด้านไอซีทีเพื่อประโยชน์ของทุกภาคส่วน

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการบ่มเพาะบุคลากรด้านไอซีทีและดิจิทัลในประเทศไทย หัวเว่ยได้ก่อตั้ง Huawei ASEAN Academy (Thailand) ในปี 2562 โดยได้ทำการอบรมบุคลากรด้านไอซีทีไปแล้วกว่า 41,000 คน รวมถึงองค์กรขนาดเล็ก และขนาดกลางอีกกว่า 1,300 องค์กร ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยยังได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันกับอีกกว่า 20 มหาวิทยาลัยในประเทศไทย

นับตั้งแต่บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) ก่อตั้งในประเทศไทย ในปี 2542 หัวเว่ยได้ดำเนินตามพันธกิจ “เติบโตในประเทศไทยและสนับสนุนประเทศไทย” มาโดยตลอด ผ่านการผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลและสร้างคุณค่าให้กับสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) มีพนักงานกว่า 2,800 คน คิดเป็นพนักงานชาวไทยกว่า 86% และเป็นการช่วยสร้างโอกาสในหน้าที่การงานทางอ้อมกว่า 8,500 ตำแหน่ง

ในเดือนมี.ค.2564 หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) ได้รับการคัดเลือกในการรับรางวัล “พีเอ็ม ดิจิทัล อวอร์ด” ประเภท “Digital International Corporation of the Year” นับเป็นเครื่องยืนยันการสนับสนุน อันทรงคุณค่าและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมไทยอย่างต่อเนื่องของหัวเว่ย รวมถึงความทุ่มเททำงาน เพื่อร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในประเทศไทย โดยหัวเว่ย เป็นบริษัทต่างชาติเพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัลนี้

Tags: