Movement

ท่าเรือแหลมฉบังจับมือท่าเรือเซี่ยเหมิน สานสัมพันธ์ Sister Port ขยายโอกาสการค้า

12

January

2022

17

August

2021

            ท่าเรือแหลมฉบังเตรียมลงนามเป็นท่าเรือพี่น้อง(Sister Port) กับท่าเรือเมืองเซี่ยเหมินท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศของจีนที่มีปริมาณการขนส่งสินค้าเป็นอันดับที่ 14 ของโลก

           เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ท่าเรือแหลมฉบังเตรียมดำเนินการลงนามข้อตกลงเป็นท่าเรือพี่น้อง (SisterPort)ร่วมกับท่าเรือเมืองเซี่ยเหมินแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อส่งเสริมและร่วมมือกันทางธุรกิจ และพัฒนาโอกาสทางการค้าด้านโลจิสติกส์แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ในด้านการขนส่งทางน้ำและโลจิสติกส์ การบริหารจัดการท่าเรือและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อร่วมกันดำเนินงานอย่างยั่งยืน

           สำหรับการดำเนินการดังกล่าวจะมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสองท่าเรือเพื่อส่งเสริมบทบาทของกันและกันในการพัฒนาความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศอาทิ เปิดเส้นทางการเดินเรือใหม่ เพิ่มจำนวนสายการเดินเรืออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า และพัฒนาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของทั้งสองท่าเรือซึ่งทั้งสองฝ่ายอาจมีการทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดระหว่างกันเพื่อดึงดูดให้มีผู้ใช้บริการของท่าเรือเพิ่มขึ้นอันนำมาซึ่งปริมาณการใช้บริการยกขนสินค้า และโอกาสทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้นโดยจะส่งเสริมแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ในการพัฒนาการบริหารจัดการและการปฏิรูปท่าเรือ รวมทั้งเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยซึ่งสามารถยกระดับการบริหารจัดการท่าเรือให้ดีขึ้นสำหรับในด้านการจัดการองค์ความรู้จะส่งเสริมการฝึกอบรมทางวิชาการและแลกเปลี่ยนความรู้อย่างมีประสิทธิภาพรวมทั้งจัดการฝึกอบรม / สัมมนา และการศึกษาดูงาน        

           ปัจจุบันท่าเรือเมืองเซี่ยเหมินเป็นท่าเรือน้ำลึกที่สำคัญตั้งอยู่บนเกาะเซี่ยเหมินชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ที่อยู่ติดกันและบริเวณปากแม่น้ำจิ่วหลงเจียงทางตอนใต้ของฝูเจี้ยนของจีนเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและติดอันดับ 7ท่าเรือชั้นนำของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีปริมาณการขนส่งสินค้าเป็นอันดับที่ 14ของโลก

           ก่อนหน้านี้ เมื่อปลายปี 2563 ที่ผ่านมา เมืองเซี่ยเหมินได้สร้างความร่วมมือทางการขนส่งทางทะเลระหว่างท่าเรือน้ำลึกสงขลาของไทยโดยนับเป็นเส้นทางเดินเรือสายที่ 32ที่เชื่อมต่อท่าเรือเซี่ยเหมินกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายใต้นโยบาย “การขนส่งตามเส้นทางสายไหมทางทะเล”

           ปัจจุบันท่าเรือเมืองเซี่ยเหมินเน้นการพัฒนาสู่ความเป็นท่าเรืออัจฉริยะโดยใช้ระบบจัดการตู้สินค้าแบบอัตโนมัติและเทคโนโลยี 5G ขณะที่ท่าเรือแหลมฉบังของไทยมีการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ต่อปีมากกว่า8 ล้านตู้มาตรฐานในปี 2562 อยู่ในอันดับที่21 ของโลก จึงนับเป็นโอกาสที่ไทยจะพัฒนาความร่วมมือกับท่าเรือเมืองเซี่ยเหมินเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคโนโลยีการขนส่งเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ระหว่างกัน

Tags: