Chongzuo

นิคมฯ ฉงจั่ว พร้อมเปิดบ้านรับนักลงทุน เมื่อสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น

12

January

2022

23

March

2020

        เริ่มต้นศักราชใหม่ 2563 ด้วยวิกฤตไวรัสCOVID-19 ที่เข้ามาจู่โจมอย่างกะทันหัน ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ถูกพบครั้งแรกในอู่ฮั่นแล้วแพร่ระบาดไปทั่วประเทศจีน รวมถึงประเทศอื่นๆอย่างรวดเร็ว ซึ่งไทยก็นับเป็นหนึ่งในประเทศเหล่านี้ด้วยเช่นกันทว่าเมืองฉงจั่ว เมืองประตูชายแดนทางตอนใต้ของจีนกลับได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ เนื่องด้วยฉงจั่วเป็นเพียงไม่กี่เมืองในจีนที่จนถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฏกรณีติดเชื้อไวรัสCOVID-19 ฉงจั่วไม่เพียงแต่เป็นเมืองผู้กล้า แต่ยังเป็นเมืองแห่งมนต์เสน่ห์และเมืองที่เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจ

        ฉงจั่วเป็นเมืองการท่องเที่ยวชายแดนและเมืองการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญของจีนมีจุดแข็งด้านทำเลที่ตั้ง ซึ่งอยู่ติดชายแดนเวียดนาม อยู่ใกล้ทะเล ใกล้เมืองเอกนครหนานหนิงและเชื่อมต่ออาเซียน ดังสมญานามที่ว่า “ประตูสู่เวียดนาม เดินสองก้าวถึงอาเซียน” ฉงจั่วเป็นเมืองข้อต่อที่สำคัญบนเส้นทางคมนาคมทางบกจีน-อาเซียนอยู่ห่างจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม 240 กิโลเมตร ห่างจากกรุงเทพฯ ประเทศไทย 1,700 กิโลเมตร ห่างจากท่าเรือนานาชาติชินโจว 130 กิโลเมตร ห่างจากฮ่องกง1,100 กิโลเมตร และห่างจากนครหนานหนิง เมืองเอกของมณฑล 70 กิโลเมตร

        นิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทยฉงจั่ว ตั้งอยู่ทางเหนือและตะวันออกของเมืองฉงจั่ว เป็นนิคมฯ ที่ฉงจั่วจัดตั้งขึ้นเพื่อเข้าร่วมยุทธศาสตร์“หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้ากับอาเซียน  นิคมฯ มีช่องทางการคมนาคมที่สะดวกหลากหลาย (ทางด่วน:มีทางด่วนหลายเส้นผ่านนิคมฯ เช่น ทางด่วนหนานหนิง-เวียดนาม, ทางด่วนคุนหมิง-ท่าเรือนานาชาติอ่าวเป่ยปู้/ ทางรถไฟ: มีเส้นทางรถไฟขนส่งระหว่างประเทศสายมอสโก-ปักกิ่ง-ฮานอยและเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่กำลังก่อสร้างตัดผ่านนิคมฯ / ทางน้ำ: จากนิคมฯ สามารถล่องแม่น้ำจั่วเจียง มุ่งขึ้นเหนือไปยังประเทศเวียดนาม มุ่งลงใต้ไปยังกว่างโจวและฮ่องกง/ ทางเครื่องบิน: นิคมฯ อยู่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติวูซู่70 กิโลเมตร มีเที่ยวบินให้บริการเกือบ 200 เที่ยว ไปยังปลายทางกว่า 100 เมือง) นอกจากนี้นิคมฯ ยังสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแรงงาน ทรัพยากรดิน แร่ธาตุ และป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ของฉงจั่วเพื่อสนับสนุนการพัฒนาของอุตสาหกรรมต่างๆ

        ทิศทางของนิคมฯตั้งอยู่บนพื้นฐานของการกระชับความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมระหว่างจีนและไทยที่มีอยู่เดิมเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ใหม่ (Strategic EmergingIndustry) มุ่งเน้นการสร้างโครงการและฐานอุตสาหกรรมใน 6 อุตสาหกรรมหลักได้แก่ อุตสาหกรรมพลังงานใหม่ อุตสาหกรรมวัสดุรูปแบบใหม่ อุตสาหกรรมน้ำตาลอ้อยหมุนเวียนอุตสาหกรรมอาหารอาเซียน อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและอีคอมเมิร์ซ ปัจจุบันนิคมฯ มีห่วงโซ่อุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลอ้อยหมุนเวียนที่ค่อนข้างครบวงจรมีอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร อุตสาหกรรมแปรรูปแมงกานีสและแร่ธาตุหายากที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างประสบความสำเร็จในการดึงดูดบริษัทที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศกว่า 100 แห่งเข้ามาลงทุนในนิคมฯเช่น น้ำตาลมิตรผล, PRINCE, CHALCO, COFCO, CNBM, Angel Yeast, CITIC Dameng ฯลฯ กลายเป็นกำลังหลักให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองฉงจั่ว

        บอกลาวันวานเดินหน้าสู่วันใหม่  ปี 2563 เรียกได้ว่าเป็นปีที่สถานการณ์ไม่ปกติธรรดาเท่าใดนักนิคมฯ พร้อมจะมุ่งมั่นเผชิญหน้ากับอุปสรรค ไม่ละทิ้งเจตนารมณ์เดิม เร่งเสริมกำลังแรงใจมากยิ่งขึ้นเพื่อผลักดันเป้าหมายใหม่ให้สำเร็จลุล่วง ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้ามาศึกษาดูงานและลงทุนปักฐานความสำเร็จที่นิคมฯเราพร้อมมอบบริการที่ครบครันพิถีพิถัน เพื่อรับประกันการเติบโตที่มั่นคงแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ

Tags: