![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/63fedfde81bee07d5b5378dd_cv.jpg)
‘ภาษาจีนฟีเวอร์’ มาแรงในอาเซียน จากความนิยมไปสู่ผลลัพธ์ทางปฏิบัติ
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db968ede13a37/6063345cc13db9afcbe13a84_Clock.png)
29
May
2023
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db968ede13a37/6063345cc13db9afcbe13a84_Clock.png)
6
March
2023
ผู้เขียน ถังอี้ นิตยสาร China-ASEAN Panorama
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/64748b1fd3893355131d1788_1.jpg)
จากแรงขับเคลื่อนและการเดินหน้าของข้อริเริ่ม ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ ทำให้กระแส‘ภาษาจีนฟีเวอร์’ มาแรงต่อเนื่อง อาเซียนซึ่งมีความใกล้ชิดกับจีนทั้งทางด้านภูมิศาสตร์สายเลือดและวัฒนธรรม ถือได้ว่าเป็นทั้งจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของข้อริเริ่ม ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ และพื้นที่หลักซึ่งได้รับอิทธิพลจากกระแสนิยมภาษาจีน
ปี 2566 เป็นวาระครบรอบ 10 ปีของข้อริเริ่ม ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จีนและอาเซียนได้เกิดการบูรณาการอย่างลึกซึ้งทั้งทางด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ส่งผลให้กระแส ‘ภาษาจีนฟีเวอร์’ ในอาเซียนยังคงมาแรงไม่มีตก และค่อยๆ พัฒนาจากความนิยมไปสู่การเห็นผลทางปฏิบัติ
‘เรียนภาษาจีน’ เทรนด์มาแรง
จากขีดความสามารถทางการแข่งขันและบทบาทในเวทีโลกของจีนที่เพิ่มมากขึ้น ความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างจีน-อาเซียน ช่วยจุดกระแสให้ภาษาจีนซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือสื่อสารสำคัญกลายเป็นที่นิยมขึ้นมา สร้างสายสัมพันธ์และเป็นสะพานเชื่อมมิตรภาพระหว่างจีน-อาเซียน
ในบาหลี ประเทศอินโดนีเซียนักท่องเที่ยวชาวจีนสามารถสื่อสารกับคนในพื้นที่ด้วยภาษาจีนได้โดยง่าย ทั้งในโรงแรมร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวและสถานบริการต่างๆ ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญในหลายประเทศอาเซียน ความเชี่ยวชาญด้านภาษาจีนของผู้ประกอบวิชาชีพจำนวนมากก็มีระดับที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังกลายเป็นหนึ่งในทักษะที่จำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพ
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/64748c1ff6d71726c1088b98_%E5%8D%B0%E5%B0%BC%E5%B7%B4%E5%8E%98%E5%B2%9B%E4%B9%8C%E8%BE%BE%E9%9B%85%E7%BA%B3%E5%A4%A7%E5%AD%A6%E6%97%85%E6%B8%B8%E5%AD%94%E5%AD%90%E5%AD%A6%E9%99%A2%E6%8F%AD%E7%89%8C%EF%BC%88%E5%9B%BE%E6%BA%90%EF%BC%9A%E4%B8%9C%E7%9B%9F%E5%A4%B4%E6%9D%A1%EF%BC%89.jpg)
หลวงพระบาง สปป.ลาว ในเดือนกรกฎาคมยังคงร้อนมาก แต่ยังสามารถได้ยินเสียงอ่านหนังสือดังมาจากโรงเรียนประถมหมู่บ้าน Buam Aor เมืองเชียงเงิน ริมฝั่งแม่น้ำโขง ขบวนรถไฟจีน-ลาวแล่นผ่านข้างหมู่บ้าน สถานีหลวงพระบางอยู่ห่างออกไป 12 กิโลเมตร เด็กนักเรียนประถมหลายสิบคนกำลังอ่านประโยค “ฉันอยากนั่งรถไฟไปจีน” ที่เขียนบนกระดานดำเป็นภาษาลาวและจีนด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/64748c4d80c8e5f5f198929b_%E8%80%81%E6%8C%9D%E7%90%85%E5%8B%83%E6%8B%89%E9%82%A6%E7%9C%81%E9%A6%99%E6%81%A9%E5%8E%BF%E5%8D%9A%E5%96%94%E6%9D%91%E7%9A%84%E5%B0%8F%E5%AD%A6%E7%94%9F%E5%AD%A6%E4%B9%A0%E6%B1%89%E8%AF%AD%EF%BC%88%E5%9B%BE%E6%BA%90%EF%BC%9A%E4%BA%BA%E6%B0%91%E7%BD%91%EF%BC%89.jpg)
แขวงหลวงพระบาง สปป.ลาว กำลังเรียนภาษาจีน (ภาพ: People's Daily)
ในฐานะหนึ่งในโครงการสำคัญของข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” รถไฟจีน-ลาวได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 จากการก่อสร้างที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง การไปมาหาสู่ระหว่างกัน ทั้งการเยี่ยมชมแลกเปลี่ยน ท่องเที่ยว เยี่ยมญาติหรือศึกษาต่อ ทำให้ความกระตือรือร้นในการเรียนภาษาจีนของชาวลาวเพิ่มมากขึ้นทุกวัน สถาบันขงจื่อในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมภาษาจีนในระดับนานาชาติ รับผิดชอบการฝึกอบรมภาษาจีนอย่างเข้มข้นให้กับนักศึกษาลาวสำหรับสายงานอาชีพที่ต้องทำงานในสายรถไฟจีน-ลาว
นอกจากนี้ หลายประเทศในอาเซียนอย่าง ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซียและเวียดนาม ยังได้บรรจุภาษาจีนลงในหลักสูตรการศึกษาของประเทศ ส่งเสริมให้โรงเรียนดำเนินการสอนภาษาจีนอย่างจริงจัง ช่วยผลักดันให้ภาษาจีนเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น โรงเรียนประถมและมัธยมในสิงคโปร์เปิดสอนหลักสูตรภาษาจีนโดยทั่วไป ขณะที่มาเลเซียมีการเรียนการสอนภาษาจีนในทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาไปจนถึงระดับมหาวิทยาลัย มีการออกแบบหลักสูตรภาษาจีนอย่างเป็นระบบ
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/64748caee1d638078283c36b_%E6%9D%A5%E8%87%AA%E4%B8%AD%E5%9B%BD%E7%9A%84%E5%BF%97%E6%84%BF%E8%80%85%E4%B8%BA%E8%80%81%E6%8C%9D%E7%9A%84%E5%AD%A6%E7%94%9F%E4%B8%8A%E6%B1%89%E8%AF%AD%E8%AF%BE%EF%BC%88%E5%9B%BE%E6%BA%90%EF%BC%9A%E6%96%B0%E5%8D%8E%E7%A4%BE%EF%BC%89.jpg)
การประยุกต์ใช้ภาษาจีนนั้นสอดคล้องกับความต้องการของประเทศอาเซียน ภายใต้การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกัน ความนิยมของภาษาจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีช่องทางการเผยแพร่ที่หลากหลายและรวดเร็วมากขึ้น จนกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยุคใหม่
ร่วมกันสร้าง ‘สะพานภาษาจีน’
ผู้คนในอาเซียนต่างให้ความสนใจกับภาษาจีนเป็นอย่างมาก จนทำให้หลายคนสงสัยว่า ‘เสน่ห์’ ของภาษาจีนอยู่ที่ตรงไหน? คำตอบสำหรับคำถามนี้เห็นได้ชัดจาก ความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนที่แน่นแฟ้นระหว่างจีน-อาเซียน โดยเฉพาะความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมของโครงการสำคัญภายใต้ข้อริเริ่ม ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ ต่างๆ อย่าง โครงการรถไฟจีน-ลาว รถไฟความเร็วสูงจาการ์ตา-บันดุง รถไฟจีน-ไทย และรถไฟรางเบาเวียดนามฮานอย ซึ่งล้วนแต่เอื้อประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ภาษาจีนจึงเปรียบเสมือน‘ขนมหวาน’ที่ผู้คนในอาเซียนต่างก็ฝักใฝ่ที่จะเรียนรู้
จากสถิติของกระทรวงพาณิชย์จีน จีนครองตำแหน่งคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอาเซียนมาติดต่อกัน 13 ปีแล้ว ผู้คนในอาเซียนต่างคาดหวังที่จะใช้ภาษาจีนเป็น ‘สะพาน’ เชื่อมโยงความร่วมมือกับจีน และทำการยกระดับซอฟท์พาวเวอร์ในตัวเอง
เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 2565 พนักงานชาวอินโดนีเซีย 60 คนของ ‘เขตความร่วมมืออุตสาหกรรมการเกษตรจูล่ง จีน-อินโดนีเซีย’ ซึ่งเป็นวิสาหกิจด้านการเกษตรของจีนในอินโดนีเซีย ได้เข้ารับการอบรมภาษาจีนเป็นระยะเวลา 3 เดือน ภายใต้การดูแลของคณาจารย์ชาวจีนจากสถาบันขงจื่อแห่งมหาวิทยาลัย Al-Azhar ประเทศอินโดนีเซีย เหลย เหวินจง ประธานเขตฯ จูล่งจีน-อินโดนีเซียกล่าวว่า หลังจากทราบว่าบริษัทจะจัดการฝึกอบรมภาษาจีน พนักงานชาวอินโดนีเซียก็รีบพากันมาลงทะเบียนในทันที
ในฐานะที่เป็นพื้นที่สำคัญลำดับต้นๆ ของ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ นอกเหนือจากศักยภาพทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนที่เป็นการเพิ่ม ‘ไฟ’ ให้กับกระแสภาษาจีนแล้ว ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและด้านอื่นๆ ก็เป็นการกระตุ้นกระแสภาษาจีนเช่นเดียวกัน
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/64748d48fa770e651ca454d3_%E6%B3%B0%E5%9B%BD%E5%AD%A6%E7%94%9F%E4%BD%BF%E7%94%A8%E7%9A%84%E6%B1%89%E8%AF%AD%E6%95%99%E6%9D%90%EF%BC%88%E5%9B%BE%E6%BA%90%EF%BC%9A%E5%8C%97%E4%BA%AC%E5%A4%A7%E5%AD%A6%E5%8C%BA%E5%9F%9F%E4%B8%8E%E5%9B%BD%E5%88%AB%E7%A0%94%E7%A9%B6%E9%99%A2%EF%BC%89.jpg)
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีผลงานซีรีส์จีนคุณภาพออกมาให้คอซีรีส์จีนในอาเซียนได้ติดตามมากมาย ทั้งเรื่อง “เล่ห์รักวังต้องห้าม” (Story of Yanxi Palace) และ “เทียบท้าปฐพี” (Who Rulesthe World) เพื่อที่จะติดตามรับชมซีรีส์จีนเหล่านี้ แม้แต่นักแสดงชาวไทยที่มีชื่อเสียงบางคนเช่น บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร ก็ยังเรียนรู้ภาษาจีนอย่างขะมักเขม้น ทั้งยังหลุดคำจีนออกมาเป็นครั้งคราวในบทโทรทัศน์ของพวกเขา
“ช่วงเดือน พ.ค. 2563 - พ.ค. 2564 จำนวนผู้ใช้งาน iQIYI เวอร์ชันสากลของไทยเพิ่มขึ้น 8 เท่า ประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนามได้กลายเป็นตลาดต่างประเทศที่สำคัญของ iQIYI” ตามคำบอกเล่าของ ปี้ อวี่ซี รองบรรณาธิการผู้บริหารของ iQIYI สถานีโทรทัศน์ K+ ของเวียดนามได้นำเข้าซีรีส์จีนเรื่อง “Light On” และโปรโมตซีรีส์เรื่อง “The Long Night” และ “The Bad Kids” ที่เป็นซีรีส์แนวระทึกขวัญทางช่องสถานีอย่างจริงจัง ความแพร่หลายของซีรีส์จีน นับเป็นหนึ่งแรงผลักดันที่ทำให้ภาษาจีนได้รับความนิยมในกลุ่มประเทศอาเซียน
ขณะเดียวกัน จีนและอาเซียนก็มีวัฒนธรรมและตรรกะความคิดที่คล้ายคลึงกัน การเรียนรู้ภาษาจีนไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าใจโลกและกระชับร่วมมือกับจีน แต่ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะเข้าใจวัฒนธรรมของตนเองอย่างลึกซึ้ง
การพัฒนาเศรษฐกิจคือรากฐาน ความไว้เนื้อเชื่อใจกันทางการเมืองคือหลักประกัน การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมคือสายสัมพันธ์ ท่ามกลางการสื่อสารและความร่วมมือที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างจีนกับอาเซียน ภาษาจีนได้เข้ามามีบทบาทโดดเด่นมากขึ้นในทุกด้านของวิถีชีวิตทางสังคมในอาเซียน
ยิ่งเดินหน้า ยิ่งเห็นผลทางปฏิบัติ
ภาษาจีนได้รับความนิยมอย่างมาก ในแง่หนึ่งได้เข้ามามีบทบาทสำคัญขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนภาษาและวัฒนธรรมระหว่างประเทศ การพัฒนาทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและเศรษฐกิจขณะเดียวกัน เมื่อเข้าร่วม ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ กับจีนแล้ว ประเทศในอาเซียนไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะบริการเป็นภาษาจีนได้ ทุกสาขาของงานบริการต่างก็ต้องการผู้ที่มีความรู้ภาษาจีนมารองรับ
ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ภาษาจีนจากเจ้าของภาษาโดยตรง ทางการจีนได้ส่งครูอาสาสมัครมาสอนภาษาจีนที่ประเทศไทย ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของไทย กล่าวว่า ไทยและจีนได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านการศึกษาในแต่ละระดับชั้น และมีกรอบความร่วมมือด้านการส่งเสริมการสอนภาษาจีนในประเทศไทยร่วมกัน
![](https://cdn.prod.website-files.com/6063345cc13db992ffe13a50/64748df3809ea36bba5f16f0_%E5%9C%A8%E6%B3%B0%E5%9B%BD%E6%8B%9C%E5%B8%88%E8%8A%82%E5%BD%93%E5%A4%A9%EF%BC%8C%E5%AD%A6%E7%94%9F%E5%90%91%E5%9C%A8%E6%B3%B0%E5%9B%BD%E4%BB%BB%E6%95%99%E7%9A%84%E4%B8%AD%E6%96%87%E8%80%81%E5%B8%88%E8%A1%A8%E8%BE%BE%E5%B0%8A%E6%95%AC%EF%BC%88%E6%91%84%E5%BD%B1%EF%BC%9A%E5%BC%A0%E8%95%BE%E6%9F%B3%E5%8D%97%EF%BC%89.jpg)
ในปี 2565 รัฐบาลจีนและเวียดนามได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ว่าด้วย “การสร้างความเข้มแข็งและลึกซึ้งยิ่งขึ้นแก่ความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-เวียดนาม" โดยกล่าวถึงการให้ทุนรัฐบาลจีนไม่ต่ำกว่า 1,000 ทุนแก่เวียดนามในอีก5 ปีข้างหน้า และทุนการศึกษาสำหรับครูสอนภาษาจีนนานาชาติอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 ทุน เพื่อช่วยเวียดนามบ่มเพาะผู้มีความสามารถและครูสอนภาษาจีนนานาชาติ
อย่างไรก็ตามในทางกลับกัน การเผยแพร่ภาษาจีนยังประสบปัญหาขาดระบบและการปฏิบัติจริง เช่น การจะคงรักษาระดับความนิยมของภาษาจีน สร้างรูปแบบการสื่อสารขนาดใหญ่และได้มาตรฐาน เพื่อให้เส้นทางการเผยแพร่ภาษาจีนสู่ต่างประเทศดีขึ้นและลงลึกยิ่งขึ้นได้อย่างไร ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องคิดพิจารณากันต่อไป
ในขั้นตอนต่อไปนั้น คือการร่วมกันเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมของอาเซียนที่หลากหลาย เพื่อแสวงหาหนทางส่งเสริมภาษาจีนภายใต้บริบทของความแตกต่างและคล้ายคลึงทางด้านภาษาและวัฒนธรรม และสนับสนุนการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาจีนในระดับอาชีวศึกษา เน้นการสอนวิชาภาษาจีนควบคู่กับทักษะวิชาชีพ สร้างรากฐานด้านบุคลากรที่มั่นคงเพื่อรองรับ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”
ภาษามีความต่างของชาติ แต่ไร้ซึ่งพรมแดน ในอนาคตด้วยการพัฒนาของเทคโนโลยีสารสนเทศ อาจเป็นไปได้ที่จะบูรณาการภาษาและวัฒนธรรมของอาเซียนในรูปแบบของ Big Data เพื่อให้การแพร่กระจายของภาษาจีนเป็นไปได้จริงมากขึ้น รวมถึงนำเสนอหลักสูตรการสอนภาษาจีนที่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมการใช้ภาษาของผู้คนในประเทศต่างๆ ของอาเซียน ทำให้กระแส ‘ภาษาจีนฟีเวอร์’ค่อยๆ เปลี่ยนจากความนิยมไปสู่การเห็นผลทางปฏิบัติ