‘กว่างซี’ เร่งดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกเข้าร่วม ‘เขตการค้าเสรีกว่างซี’ ไขว่คว้าโอกาสจาก RCEP ยกระดับการเปิดกว้างคุณภาพสูง

        การประชุมส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศของเขตทดลองการค้าเสรีจีน (กว่างซี) ประจำปี 2565 จัดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 พ.ค. 2565 ที่เมืองหนานหนิง ประเทศจีน  ภายใต้หัวข้อหลักว่าด้วย “เขตการค้าเสรีเชื่อมโลก จับมือร่วมมือกันก้าวไปสู่อนาคต” ในรูปแบบผสมผสานออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อแสดงพลังทางเศรษฐกิจ พลังทางนวัตกรรม และศักยภาพการลงทุนของเขตทดลองการค้าเสรีกว่างซีแก่ทั่วโลก และดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกให้เข้ามาลงทุนที่เขตทดลองการค้าเสรีกว่างซี โดยเวทีการประชุมหลักอยู่ที่กรุงปักกิ่งและหนานหนิง ส่วนเวทีประชุมย่อยอีก 8 แห่ง จัดขึ้นที่ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เยอรมนีและอเมริกา

        ไช่ ลี่ซิน สมาชิกถาวรของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง รองประธานบริหารเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และผู้อำนวยการฝ่ายการจัดตั้งเขตทดลองการค้าเสรีกว่างซี กล่าวภายในงานว่า เขตทดลองการค้าเสรีกว่างซี ตั้งอยู่ในตำแหน่งจุดศูนย์กลางของภูมิภาคจีน-อาเซียน อยู่ใกล้กับอาเซียนและเชื่อมโยงกับเส้นทางสายไหมทางทะเล มีข้อได้เปรียบด้านที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม ปัจจุบันกว่างซีได้ดำเนินการตามภารกิจนำรองการปฏิรูปที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลกลางครบทั้งสิ้น 120 รายการแล้ว มีการจัดตั้งบริษัทใหม่มากกว่า 6 หมื่นบริษัท เพิ่มขึ้น 17 เท่าจากช่วงก่อนการจัดตั้งเขตทดลองการค้าเสรีกว่างซี ปริมาณการใช้เงินทุนจากต่างประเทศ และปริมาณการนำเข้าส่งออกระหว่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 34.9 และ 33.4 ของปริมาณการค้าโดยรวมของกว่างซีตามลำดับ  บริษัทชั้นนำมากมายได้เข้ามาลงทุนในเขตทดลองการค้าเสรีกว่างซี และได้มีส่วนช่วยสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพสูงและการสาธิตการเปิดกว้างระดับสูงของกว่างซี

     ขณะนี้ กว่างซีกำลังเดินหน้าผลักดันการเปิดกว้างสู่ภายนอกในระดับที่สูงขึ้น คว้าโอกาสจากการมีผลบังคับใช้ของ RCEP เร่งสร้างพื้นที่ความร่วมมือเปิดกว้างสู่อาเซียนที่สอดรับกับข้อริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” มากขึ้น และมุ่งมั่นพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อที่สำคัญของยุทธศาสตร์วงจรคู่  ไช่ ลี่ซิน กล่าว

        ทั้งนี้ ไช่ ลี่ซิน ได้เสนอแนะแนวทาง 3 ประการ ประกอบด้วย 1) การบังคับใช้ RCEP คุณภาพสูง เพื่อขยายขอบเขตความร่วมมือและพันธมิตรใหม่ สร้างข้อได้เปรียบใหม่สำหรับการเปิดกว้างและความร่วมมือที่มุ่งเน้นอาเซียน 2) การดำเนินการตามโครงการสาธิตการบูรณาการการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมคุณภาพสูง เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและความไหลลื่นของห่วงโซ่อุตสาหกรรมข้ามพรมแดนกับกลุ่มประเทศอาเซียน 3) การสร้างระบบส่งเสริมการลงทุนระดับโลกที่มีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพ กระชับความร่วมมือแลกเปลี่ยนทางอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ‍

         หลี่ หย่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการลงทุน กระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า กว่างซีมีข้อได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งที่โดดเด่น อยู่ติดกับเขตเศรษฐกิจอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (GBA: Greater Bay Area) และอยู่ใกล้ชิดกับอาเซียน กว่างซีกำลังใช้โอกาสจาก RCEP ขยายการเปิดกว้างระดับสูงสู่ภายนอก สร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระหว่างประเทศที่เอื้ออำนวยโดยอิงหลักการของตลาด อยู่ภายใต้กฎหมาย และได้มาตรฐานสากล และเปลี่ยนความได้เปรียบจากทำเลที่ตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ให้กลายเป็นข้อได้เปรียบด้านการพัฒนาเปิดกว้าง สำนักงานส่งเสริมการลงทุนฯ พร้อมร่วมมือกับ กรมพาณิชย์เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและจัดหาแพลตฟอร์มความร่วมมือใหม่ๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนที่กว่างซีต่อไป

        ภายในงาน ที่ประชุมได้ประกาศรายชื่อและมอบหนังสือแต่งตั้งให้กับ “ทูตส่งเสริมการลงทุนเขตการค้าเสรีกว่างซี” นอกจากนี้ กรมพาณิชย์เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ยังได้ลงนาม MOU กับหน่วยงานพันธมิตรส่งเสริมการลงทุนจากฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เยอรมนีและอเมริกา รวมทั้งสิ้น 11 แห่ง

        ความสำเร็จของการประชุมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า เขตทดลองการค้าเสรีกว่างซีได้ก้าวเข้าสู่ขั้นตอนใหม่ของการดึงดูดการลงทุนจากทั่วทุกมุมโลก เขตทดลองการค้าเสรีกว่างซีพร้อมที่จะกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้ากับกลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มประเทศ RCEP และประเทศและเขตพื้นที่ตามแนว "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ในขอบเขตที่กว้างขึ้นและในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งเดินหน้าจัดการประชุมส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง จับมือร่วมสร้างอนาคตที่สดใสไปด้วยกัน